สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

ข่าวกิจกรรม

สสท. โต้โผหลัก นำกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคม ยื่นหนังสือภาครัฐ ขอทวงคืนที่ดินทำกินจากกรมป่าไม้

โดย นางสาวสุภ์จิตรา ปิยะจันทร์
 วันที่ 16 มี.ค. 2565 เวลา 16:16 น.
 1148
UploadImage

สสท. โต้โผหลัก นำกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคม
ยื่นหนังสือภาครัฐ ขอทวงคืนที่ดินทำกินจากกรมป่าไม้

 
กลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคม 4 ภาค 17 สหกรณ์ 13 นิคม 14 ป่า 12 จังหวัด ตบเท้าเข้าพบ 3 หน่วยงาน เรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ใช้ พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 เพื่อให้สมาชิกของสหกรณ์ได้รับกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้อง
 
(วันที่ 16 มีนาคม 2565) ผู้แทนของกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคม 4 ภาค 17 สหกรณ์ 13 นิคม 14 ป่า 12 จังหวัด นำโดย นายสุพจน์ ริจ่าม ประธานกลุ่มเครือข่ายฯ และนายเจียง นาอุดม ประธานฯ สหกรณ์นิคมดงมูลสอง จำกัด พร้อมคณะ เดินทางเข้าพบนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และในวันเดียวกันนั้น ได้เดินทางไปยื่นหนังสือกับผู้แทนของรัฐบาล นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล เขตดุสิต จากนั้น นายปัณฐวิชญ์ มุ่งสมัครศรีกุล ผู้อำนวยการสันนิบาตสหกรณ์ฯ และคณะกลุ่มเครือข่ายฯ ได้เข้าพบอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ เพื่อยื่นหนังสือขอให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ ผลักดันการร้องขอสิทธิ์ในการจัดที่ดินทำกินให้กับชุมชนในพื้นที่ 13 นิคม 14 ป่า ซึ่งในส่วนของนิคมสหกรณ์ที่ได้รับความเดือดร้อนและได้ประสานงานขอความช่วยเหลือมายังภาครัฐเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว ซึ่งอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้รับหนังสือและได้รับทราบความเดือดร้อนของสหกรณ์ ณ กรมส่งเสริมสหกรณ์ เทเวศร์
 
นายเจียง นาอุดม กล่าวว่า ยืนยันว่า ในส่วนของพื้นที่ 13 นิคม 14 ป่า ไม่ได้เป็นพื้นที่ป่า แต่เป็นชุมชน มีสิ่งปลูกสร้าง ถนน โรงเรียน และหน่วยงานภาครัฐ  ในส่วนของสหกรณ์ ได้พยายามผลักดันให้กรมป่าไม้คืนพื้นที่ 13 นิคม 14 ป่า และให้นำเอาพื้นที่ดังกล่าว ไปจัดรูปแบบ (คทช.) โดยเสนอเข้างานนโยบายของรัฐบาลซึ่งเป็นการจัดที่ดินซ้ำซ้อนโดยกรมป่าไม้อ้างว่าสหกรณ์ของเราและกรมส่งเสริมสหกรณ์เช่าพื้นที่ป่าในพื้นที่ 13 นิคม 14 ป่า ทางเราขอยืนยันว่า ไม่จริง ไม่มีการเช่าตามที่กรมป่าไม้กล่าวอ้าง โดยสามารถไปตรวจสอบข้อเท็จจริงตามเอกสารการจดทะเบียนของแต่ละสหกรณ์ เราจดทะเบียนเริ่มต้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2518 ถึงปี พ.ศ.2526 แต่ละสหกรณ์จดทะเบียนมานานเท่าใด  และจดทะเบียนประเภทของสหกรณ์ประเภทไหน ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าประเภทสหกรณ์นิคม ตามความในพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2511 และตามมติ ครม.ปี พ.ศ. 2513 และปี พ.ศ. 2517 นี่คือที่มาของพวกเรา กลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคม 13 นิคม 14 ป่า 12 จังหวัด 4 ภาค ได้มีมติที่ประชุมเมื่อครั้งประชุมที่สหกรณ์ดงมูลหนึ่ง จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 ผู้เข้าร่วมประชุมได้ยืนยันไม่เอาโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามบันทึกรายงานการประชุมอย่างชัดเจนที่ส่งแนบมาพร้อมกันนี้ เหตุผลที่กลุ่มสหกรณ์นิคมเราทั้ง 17 สหกรณ์ ไม่รับโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) มีข้อเสีย คือ จากการที่หน่วยงานราชการนำเอาที่ดินใน 13 นิคม 14 ป่า เสนอเข้าโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนเข้าไปในงานนโยบายของรัฐบาล เป็นเพียงความต้องการผลงานและต้องการงบประมาณของแผ่นดินไปบริหาร ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่ซ้ำซ้อน หากนำเอาที่ดินในเขต 13 นิคม 14 ป่า ไปจัดใหม่ จะมีความเสียหายต่อประเทศชาติอีกมาก เพราะจะต้องใช้งบประมาณของแผ่นดินมาดำเนินงานในพื้นที่ 1.5 ล้านไร่ โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนมีความเหมาะสมกับพื้นที่ ที่ประชาชนบุกรุกป่าต้นน้ำทุกภาคในประเทศไทย เพราะพื้นที่ดังกล่าวไม่มีหน่วยงานส่วนราชการกำกับดูแล  
 
โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน เป็นโครงการที่ไม่ควรนำมาจัดในพื้นที่ของ 13 นิคม 14 ป่า เพราะพื้นที่ดังกล่าว ได้รับการจัดสรรที่ดิน จากหน่วยงานภาครัฐมาก่อนแล้ว กลุ่มราษฎรที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์นิคมเขาได้รับการจัดสรรที่ดินจากภาครัฐมาเป็นเวลากว่า 50 ปี พัฒนาที่ดิน พัฒนาอาชีพ พัฒนาสิ่งแวดล้อม พัฒนาชุมชน พัฒนาสังคมให้น่าอยู่ พัฒนาเศรษฐกิจทางการเกษตรให้ประเทศ ความเป็นจริงแล้วในเวลานี้หากเขาได้รับการดูแลเอาใจใส่จากหน่วยงานของราชการพวกเราควรจะได้รับกรรมสิทธิ์ (เอกสารสิทธิ์) ในที่ดินตรงนี้ตั้งนานแล้ว  สมาชิกของสหกรณ์ 13 นิคม 14 ป่า 7 สหกรณ์ทุกคน คุณสมบัติไม่เข้าหลักเกณฑ์ข้อกำหนดของโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนทำไมต้องมาจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) ในพื้นที่ 13 นิคม 14 ป่า 17 สหกรณ์ 4 ภาคซึ่งเป็นการซ้ำซ้อนให้กับพวกเราอีก พื้นที่ที่พวกเราสมาชิกสหกรณ์ 13 นิคม 14 ป่า 17 สหกรณ์มีที่มาตามมติคณะรัฐมนตรีอย่างถูกต้อง สมาชิกสหกรณ์นิคมทุกคนได้รับการรับรองให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่จากภาครัฐ หน่วยงานราช การกรมส่งเสริมสหกรณ์กำกับดูแลสมาชิกสหกรณ์ 13 นิคม 14 ป่า 7 สหกรณ์พวกเราอยู่ในพื้นที่ตามที่ได้รับการจัดสรรจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 มีหน่วยงานส่วนราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์รับผิดชอบกำกับดูแล ตามมติ ครม.วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2513 และมติ ครม.เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2517 กรมป่าไม้กันแนวเขตพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมอย่างถูกต้อง  
 
สมาชิกสหกรณ์ 13 นิคม 14 ป่า 17 สหกรณ์ 12 จังหวัดได้รวมกันเป็นเครือข่ายสหกรณ์นิคม 4 ภาคเพื่อพัฒนาที่ดิน พัฒนาอาชีพ พัฒนาเศรษฐกิจทางการเกษตรของประเทศ พัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียงตามทฤษฎีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 และในหลวงรัชกาลที่ 10
 
การขอถอดถอนเอาพื้นที่ของสหกรณ์นิคม 4 ภาค 13 นิคม 14 ป่าออกจากการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) เพื่อนำไปดำเนินการจัดที่ดินทำกินตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 โดยการดำเนินงานจากส่วนราชการ กรมส่งเสริมสหกรณ์ สมาชิกสหกรณ์นิคม 17 สหกรณ์ทุกคน อาศัยอยู่ในพื้นที่และทำประโยชน์มายาวนานกว่า 50 ปีมาแล้ว พวกเราต้องการกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของตนเองด้วยเหตุผลที่พวกเราได้นำมาเรียนให้ทราบตามข้อเท็จจริงตามเอกสารความชัดเจนที่ปรากฏ ขอให้โปรดพิจารณาคืนพื้นที่ 1.5 ล้านไร่ที่อยู่ในเขต 13 นิคม 14 ป่า 17 สหกรณ์ 4 ภาคที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ส่งคืนป่าไม้ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ.2564 คืนมาเพื่อให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ นำมาจัดที่ดินทำกินตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินทำกินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 และขอเพิกถอนป่าเพื่อ ออก กสน.3 และ กสน.5 ให้กับพวกตนต่อไป.


UploadImage

UploadImage

UploadImage

UploadImage

UploadImage

UploadImage

UploadImage

UploadImage

UploadImage