สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

ข่าวกิจกรรม

กลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคม หารือ สสท. ก่อนร้อง รมต.สำนักนายกัฐมนตรี ไม่เอา คทช

โดย นายกมลศักดิ์ นันตา
 วันที่ 15 มี.ค. 2565 เวลา 20:16 น.
 971
UploadImage


กลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคม
(4 ภาค 17 สหกรณ์ 13 นิคม 14 ป่า 12 จังหวัด)
หารือ สสท. ก่อนร้อง รมต.สำนักนายกัฐมนตรี ไม่เอา คทช.
 
...................
 
(15 มีนาคม 2565) สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) โดยนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานคณะกรรมการดำเนินการฯ และนายปัณฐวิชญ์ มุ่งสมัครศรีกุล ผู้อำนวยการฯ สสท. ได้ให้การต้อนรับกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคม โดยการนำของนายสุพจน์ ริจ่าม ประธานกลุ่มฯ พร้อมด้วยตัวแทนจากกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคม (4 ภาค 17 สหกรณ์ 13 นิคม 14 ป่า 12 จังหวัด) เข้าปรึกษาหารือขอข้อเสนอแนะ ก่อนกลุ่มเครือข่ายฯ จะเข้ายืนหนังสือต่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านการนำพื้นที่นิคมออกจากโครงการจัดสรรที่ดินทำกิน ของคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)
 
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2564 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบการประชุมทางไกล Video Conference พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และกรมธนารักษ์ โดยมีกรมป่าไม้ เป็นฝ่ายเลขานุการ
 
โดยในที่ประชุม นายวราวุธ ศิลปอาชา ได้ขอความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย ในการเร่งรัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เร่งดำเนินการขออนุญาตการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายที่เป็นป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อให้สามารถส่งมอบพื้นที่ให้กับประชาชนได้ครบทั้ง 3.9 ล้านไร่ ใน 76 จังหวัด ได้ทันภายในสิ้นปี 2564 นี้ เพื่อให้ราษฎรได้มีที่ดินทำกินหลังช่วงภาวะวิกฤติโควิด-19
 
ที่ประชุมได้มีมติรับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน ภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ที่ได้มีการกำหนดพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนระหว่างปี พ.ศ. 2558-2564 รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,353 พื้นที่ 70 จังหวัด เนื้อที่รวม 4.1 ล้านไร่ ประกอบด้วย 7 พื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ 2484 พื้นที่ป่าชายเลน พื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดิน พื้นที่สาธารณประโยชน์ พื้นที่ราชพัสดุ และพื้นที่นิคมสร้างตนเอง โดยได้มีการอนุญาตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเพื่อดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้กับชุมชนไปแล้วจำนวน 2.3 ล้านไร่ จากพื้นที่เป้าหมาย 3.9 ล้านไร่ พร้อมทั้งรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานของคณะทำงานศึกษาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนอง จ.ระนอง
 
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติให้ความเห็นชอบผลการดำเนินงานจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนของ คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติจังหวัด เห็นชอบการขอแก้ไขชื่อและเนื้อที่ในพื้นที่ที่คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินได้ให้ความเห็นชอบไปแล้ว จำนวน 2 พื้นที่ ได้แก่ บ้านปากน้ำประแสร์ จ.ระยอง และบ้านทางสาย จ.ตรัง เห็นชอบการกำหนดพื้นที่เป้าหมายเพิ่มเติมสำหรับการดำเนินการจัดที่ดินในปี พ.ศ. 2564 จำนวน 7,171 ไร่ และเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นที่นิคมสหกรณ์ 13 นิคม 14 ป่า และนิคมสหกรณ์แม่ริม จ.เชียงใหม่ รวมถึงได้ให้ความเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาราษฎรอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าไม้ถาวร ป่าห้วยสำราณ จ.สุรินทร์ และป่าหมายเลข 10 จ.ชัยภูมิ
 
นายสุพจน์ ริจ่าม ประธานกลุ่มฯ กล่าวว่า “การนำพื้นที่ดังกล่าวไปจัดสรรในรูปแบบของ คทช. ส่งผลกระทบแก่กลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคมเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นเพียงการต้องการผลงานและต้องการงบประมาณงบประมาณของแผ่นดินซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน หากนำเอาที่ดินใน 13 นิคม 14 ป่า ไปจัดใหม่จะเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอีกมากเพราะจะต้องใช้งบประมาณของแผ่นดินมาดำเนินงานในพื้นที่ 1.5 ล้านไร่”
 
ในวันเดียวกันนี้ กลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคมได้ยืนหนังสือต่อนายปัณฐวิชญ์ มุ่งสมัครศรีกุล ผู้อำนวยการฯ สสท. เพื่อนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการดำเนินการ สสท. และยื่นต่อ นายธิวัชร์ ดำแก้ว เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การประชุมของคณะกรรมาธิการฯ ต่อไป
 
อนึ่งกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคม (4 ภาค 17 สหกรณ์ 13 นิคม 14 ป่า 12 จังหวัด) ได้เรียกร้องในเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ทำกินและที่อยู่อาศัย ในพื้นที่ 13 นิคมสหกรณ์ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่เสื่อมโทรม ซึ่งกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคมผู้เช่า ได้ต่อสู้เรียกร้องมาตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2533 ในทุกรัฐบาลที่ผ่านมา และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2554 ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมส่งเสริมสหกรณ์) รับไปดำเนินการตราร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง 13 นิคมสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมป่าไม้) รับไปดำเนินการยกร่างกฎกระทรวง เพื่อพิจารณาเพิกถอน ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 14 ป่า แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งต่อมาในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ) ประธานกรรมการศึกษาแก้ไขปัญหาด้านเอกสารสิทธิ์ในที่ดินทำกินของกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคมผู้เช่า 13 นิคมสหกรณ์ได้เสนอขอถอนเรื่องดังกล่าวออกไปก่อน ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามเสนอทำให้มีผลกระทบต่อมวลสมาชิกสหกรณ์นิคมผู้เช่า 13 นิคมสหกรณ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากขาดสิทธิ์ในที่ดินทำกิน และอยู่อาศัยซึ่งต่างจากนิคมสหกรณ์ที่ตราพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 ไปแล้วจำนวน 37 นิคมสหกรณ์
 
จนกระทั่งเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่กลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคมผู้เช่า 13 สหกรณ์จึงได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ) เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยผู้ตรวจราชการแผ่นดินก็เห็นด้วยกับตราพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง 13 นิคมสหกรณ์และการเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ 14 ป่าที่เสื่อมโทรม
และเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2555 กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้แจ้งให้กลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคม ผู้เช่า 13 นิคมสหกรณ์ ทราบว่ากรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้วแต่เนื่องจากเป็นการแก้ปัญหาเชิงนโยบายกรมส่งเสริมสหกรณ์จึงได้รายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาในส่วนของกรมส่งเสริมสหกรณ์ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทราบเพื่อนำเรียนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ) และขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณายืนยันการนำเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสหกรณ์ผู้เช่า 13 นิคมสหกรณ์ 14 ป่าเสื่อมโทรม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
 
กลุ่มเครือข่ายสหกรณ์นิคม 4 ภาค 17 สหกรณ์ 13 นิคม 14 ป่า 12 จังหวัด ประกอบด้วย
 
 ภาคเหนือ 4 นิคม 7 สหกรณ์
  1. นิคมสหกรณ์แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ (สหกรณ์นิคมแม่แจ่ม จำกัด / สหกรณ์นิคมนาคอเรือ จำกัด)
  2. นิคมสหกรณ์นครเดิฐ จ.สุโขทัย (สหกรณ์นิคมนครเดิฐ จำกัด)
  3. นิคมสหกรณ์คลองสวนหมาก จ.กำแพงเพชร (สหกรณ์นิคมคลองสวนหมาก จำกัด)
  4. นิคมสหกรณ์วังทอง จ.พิษณุโลก (สหกรณ์นิคมวังทอง จำกัดสหกรณ์นิคมพันชาลี จำกัด / สหกรณ์นิคมเนินมะปราง จำกัด)
 
ภาคใต้ 2 นิคม 2 สหกรณ์
  1. นิคมสหกรณ์บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ (สหกรณ์นิคมบางสะพาน จำกัด)
  2. นิคมสหกรณ์ประทิว จ.ชุมพร (สหกรณ์นิคมประทิว จำกัด)
 
อีสาน 3 นิคม 4 สหกรณ์
  1. นิคมสหกรณ์ดงมูล จ.ขอนแก่น (สหกรณ์นิคมดงมูลหนึ่ง จำกัด / สหกรณ์นิคมดงมูลสอง จำกัด)
  2. นิคมสหกรณ์แคนดง จ.บุรีรัมย์ (สหกรณ์นิคมแคนดง จำกัด)
  3. นิคมสหกรณ์ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา (สหกรณ์นิคมขามทะเลสอ จำกัด)
 
กลาง 3 นิคม 4 สหกรณ์
  1. นิคมสหกรณ์ชัยบาดาล จ.ลพบุรี (สหกรณ์นิคมชัยบาดาล จำกัด / สหกรณ์นิคมลำนารายณ์ จำกัด)
  2. นิคมสหกรณ์ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี (สหกรณ์นิคมด่านช้าง จำกัด)
  3. นิคมสหกรณ์ลานสัก จ.อุทัยธานี (สหกรณ์นิคมลานสัก จำกัด)
 UploadImage

UploadImage

UploadImage

UploadImage

UploadImage