สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์

กรมส่งเสริมสหกรณ์ห่วงโควิดกระทบรายได้สมาชิกสหกรณ์การเกษตรและกลุ่มเกษตรกร

โดย นางสาวสุภ์จิตรา ปิยะจันทร์
 วันที่ 08 ธ.ค. 2564 เวลา 10:51 น.
 891
UploadImage 

กรมส่งเสริมสหกรณ์ห่วงโควิดกระทบรายได้สมาชิกสหกรณ์การเกษตรและกลุ่มเกษตรกร
เผยปี 65 วางมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร
 
นายวิศิษฐ์  ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ภาคการเกษตร ซึ่งในปี 2564 ที่ผ่านมา ปริมาณธุรกิจสหกรณ์ภาคการเกษตรลดลงกว่า 7,555 ล้านบาท เนื่องจากไม่สามารถจำหน่ายผลผลิตการเกษตรได้เหมือนเช่นสถานการณ์ปกติ รวมถึงผู้ส่งออก ชะลอการรับซื้อสินค้าจากสหกรณ์เพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ  ขณะที่สมาชิกสหกรณ์ส่วนหนึ่งต้องกู้เงินจากสหกรณ์ที่ตัวเองสังกัด หรือแหล่งเงินกู้ทั้งในระบบและนอกระบบ เพื่อนำมาลงทุนทำการเกษตร ส่งผลให้สมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรมีภาระหนี้สินเพิ่มมากขึ้น


UploadImage

UploadImage
 
กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงมีนโยบายในการบรรเทาและแก้ไขปัญหาหนี้สินของสมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรและกลุ่มเกษตรกร โดยในปี 2564 ได้ดำเนินการ 3 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร  เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2562 ซึ่งเป็นช่วงที่โรคไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มระบาดในปีแรก โดยให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่มีหนี้เงินกู้จากการทำการเกษตร โดยมีต้นเงินกู้ขอรับการชดเชยไม่เกิน 300,000 บาทแรก อัตราร้อยละ 3 เป็นระยะเวลาชดเชยดอกเบี้ย 1 ปี (สัญญาเงินกู้ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2561 – 31 กรกฎาคม 2562) โดยในปี 2562 – 2564 กรมฯ ได้ชดเชยดอกเบี้ยให้แก่สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรแล้ว จำนวน 384,775 ราย  ในพื้นที่ 77 จังหวัด สหกรณ์ 1,093 แห่ง กลุ่มเกษตรกร จำนวน 319 แห่ง รวม 1,412 แห่ง และในปี 2565 มีแผนชดเชยดอกเบี้ยให้สมาชิกที่ได้รับยังไม่เต็มจำนวนอีก 353,445 ราย
 
นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาหนี้ค้างชำระของสมาชิกสหกรณ์ เนื่องจากกรมฯได้เห็นถึงความสำคัญของปัญหาหนี้ค้างชำระของสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพและการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งส่งผลต่อรายได้และการดำรงชีพของสมาชิกสหกรณ์ จึงมีนโยบายแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2562 และต่อเนื่องมาจนถึงปี 2564 โดยจัดอบรมถ่ายทอดความรู้แก่ฝ่ายจัดการของสหกรณ์ 741 แห่ง 3,920 ราย ให้มีความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการธุรกิจสินเชื่อที่มีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาหนี้ค้างชำระของสมาชิก และส่งเสริมให้สมาชิกมีความรู้ในการบริหารจัดการหนี้ของตนเอง รู้จักวางแผนทางการเงิน สามารถชำระหนี้ค้างได้ และเสริมสร้างอาชีพเสริมให้สมาชิก 2,496 ราย โดยสมาชิกสหกรณ์ที่มีหนี้ค้างชำระ ณ วันที่ 1 มกราคม 2564 จำนวน 751.095 ล้านบาท ลดลงเหลือ 727.783 ล้านบาท ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2564 คิดเป็นร้อยละ 7.03 พร้อมทั้งได้สนับสนุนเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ วงเงิน 25 ล้านบาท  ภายใต้โครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อแก้ปัญหาหนี้และฟื้นฟูอาชีพสมาชิกสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้สมาชิกกู้ยืมรายละไม่เกิน 30,000 บาท อัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเวลาให้กู้ต่อเนื่อง 3 ปี เพื่อให้สมาชิกที่มีปัญหาภาระหนี้ ใช้เป็นทุนในการประกอบอาชีพและสร้างรายได้ระยะสั้น โดยสหกรณ์จะช่วยหาตลาดรองรับผลิตผลล่วงหน้า ตามนโยบายตลาดนำการผลิต ปัจจุบันมีสหกรณ์ขอกู้เงินจากกพส.แล้ว 83 แห่ง วงเงิน 16.415 ล้านบาท และจากการติดตามผลการแก้ไขปัญหาหนี้ค้างชำระของสมาชิกสหกรณ์ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2562 พบว่า ในภาพรวมสมาชิกสหกรณ์ยังมีหนี้ค้างชำระ ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 จำนวน 189,254 ราย มูลหนี้ค้างรวม 30,030.639 ล้านบาท ลดลงจากเดือนเมษายน 2564 ที่มีจำนวน 205,676 ราย และมูลหนี้ค้างรวม 33,752.427 ล้านบาท  ผลจากการดำเนินโครงการดังกล่าว ส่งผลให้สมาชิกมีหนี้ค้างลดลง จำนวน 16,422 ราย มูลหนี้ค้างลดลง 3,721.733 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 11.03 


UploadImage

UploadImage

UploadImage

สำหรับมาตรการที่ 3  เป็นการช่วยเหลือบรรเทาภาระหนี้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์และสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ออกประกาศนายทะเบียนสหกรณ์ ให้สหกรณ์ใช้เป็นแนวทางในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์ โดยขอความร่วมมือสหกรณ์ผ่อนผันการชำระหนี้ให้กับสมาชิก ทั้งขยายเวลาชำระหนี้หรือพักชำระหนี้เป็นการชั่วคราว รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้   และการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ส่วนการชำระค่าหุ้นของสมาชิก ขอให้ปรับลดหรืองดส่งค่าหุ้นรายเดือนเป็นการชั่วคราวหรืองดหักส่งค่าหุ้นตามส่วนของเงินกู้ จนกว่าจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ผลจากการให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในปี 2564 มีสหกรณ์ที่เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือบรรเทาหนี้  ให้สมาชิก 3,994 แห่ง โดยพักชำระหนี้ให้สมาชิก 261,009 ราย มูลหนี้รวม 63,710.90 ล้านบาท มีการลดดอกเบี้ยเงินกู้  ให้สมาชิก 789,874 ราย ลดภาระหุ้นโดยปรับลด/งดค่าหุ้นชั่วคราวให้สมาชิก 315,865 ราย มูลค่า 1,390.31 ล้านบาท ปรับโครงสร้างหนี้ให้สมาชิก 57,560 ราย โดยสหกรณ์รับภาระหนี้แทน 6,652.04 ล้านบาท และลดค่าใช้จ่ายให้กับสมาชิกสหกรณ์ 314,996 ราย มูลค่า 429.67 ล้านบาท

UploadImage

UploadImage

UploadImage 
“ในปัจจุบันเราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า สถานการณ์ของสหกรณ์ภาคการเกษตร หลาย ๆ สหกรณ์มีปัญหาเรื่องของธุรกิจสินเชื่อค่อนข้างมาก หรือแม้แต่ธุรกิจรวบรวมผลผลิตและธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายก็เหมือนกัน ซึ่งก็เป็นผลกระทบจากสถานการณ์โรคไวรัสโคโรนา 2019 และส่งผลต่อเนื่องถึงตัวสมาชิกสหกรณ์ รายได้จากการผลิตสินค้าของเขาก็มีปัญหา มันก็เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องกัน แต่ในวิกฤติก็ย่อมต้องมีโอกาส เพราะว่าจากการที่ได้ลงไปเยี่ยมเยียนในต่างจังหวัดหลาย ๆ แห่ง สหกรณ์ที่เขามีศักยภาพในการส่งเสริมให้สมาชิกประกอบอาชีพและรวบรวมผลผลิตออกจำหน่าย สหกรณ์เหล่านี้ยังมีศักยภาพแล้วสมาชิกก็ทำจริง มีรายได้จริง ซึ่งเป็นสิ่งที่กรมฯพร้อมให้การสนับสนุนให้สมาชิกสหกรณ์พัฒนาอาชีพและสร้างรายได้ เพื่อจะได้มีเงินเลี้ยงครอบครัวและส่งชำระหนี้คืนสหกรณ์ได้ ทำให้ปัญหาเรื่องหนี้ค้างชำระลดลงในที่สุด”  อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว


UploadImage

UploadImage

UploadImage

UploadImage